โจ๊กเกอร์ 2 Joker 2 Folie a Deux (2024) โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ

โจ๊กเกอร์ 2

โจ๊กเกอร์ 2 “Joker 2 Folie a Deux (2024) โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวเพลง ตื่นเต้นจิตวิทยา ที่กำลังจะออกเดินทางมาถึง ดูแลโดยท็อดด์ ฟิลลิปส์ จากบทภาพยนตร์ที่ร่วมเขียนบทกับสก็อตต์ ซิลเวอร์ เป็นภาคต่อของ โจ๊กเกอร์ (2019) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากนักแสดงจากดีซีคอมิกส์อย่างหละหลวมๆวาคีน ฟีนิกซ์กลับมาเล่นบทโจ๊กเกอร์อีกรอบ โดยมีเลดีกากามาร่วมแสดงฮาร์ลีย์ ควินน์ ในฐานะคู่รัก ซาซี บีตซ์กลับมาสวมบทของคุณจากภาพยนตร์ภาคที่แล้ว ตอนที่เบรนดินแดน กลีสัน และก็แคตคุณรีน คีเนอร์ ก็มาร่วมแสดงด้วย ผลิตโดยวอร์เนอร์บราคุณส์พิคพบส์ รวมทั้งดีซีสตูดิโอส์ ร่วมกับจอนต์แอฟฟอร์ต

โจ๊กเกอร์ 2 แสดงนำโดย

  • วาคีน ฟินิกซ์ รับบท อาร์เธอร์ เฟล็ก / โจ๊กเกอร์
  • เลดี้ กาก้า รับบท ฮาร์ลีน ลี ควินเซล / ฮาร์ลี ควินน์
  • แคเธอรีน คีเนอร์ รับบท แมรีแอนน์ สจ๊วต
  • ซาซี บีทซ์ รับบท โซฟี ดูมอนด์
  • แฮร์รี ลอว์เทย์ รับบท ฮาร์วี เดนท์
  • สตีฟ คูแกน รับบท แพดดี้ เมเยอร์ส

ดีซี รวมทั้ง วอร์เนอร์ บราคุณร์ส ถึงเวลาปลดปล่อยครั้งเซอร์แบบอย่างแรกของ Joker: Folie à Deux ออกมาตรงตรงเวลา แล้วก็มากับความเซอร์ไพรส์ที่ไม่คาดฝันว่าจะได้มองเห็นหนังจำพวกนี้ออกมาในแนวโรแมนติกดรามา ผสมกับลูกเล่นความเป็นมิวสิคัล ที่ตอนนี้ได้ทำให้คนชอบดูหนังเริ่มเห็นภาพแล้วว่า หนังจะออกมาในแนวทางไหน ซึ่งค่อนจะแปลกใหม่ และก็คงจะเวิร์กอยู่แบบไม่ธรรมดาเลย

“”วาคีน ฟินิกซ์”” กลับมาเล่นบทเป็น โจ๊กเกอร์ หรือ อาร์เธอร์ เฟล็กซ์ และก็เสริมด้วย “”เลดี กาก้า”” ที่ร่วมมาสวมบท ฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่ก่อให้เกิดเป็นจุดเริ่มแรกที่ความรักที่เกิดขึ้นในรั้วโรงหมอจิตเวชศาสตร์คุมขังที่อาร์กหมูแฮม กับฟุตเทจงานสร้างแล้วก็การแสดงที่จัดจ้ามากไม่น้อยเลยทีเดียว ร้องเรียงเคล้าไปกับเพลงดังอมตะ อย่าง ‘What The World Needs Now Is Love’ ที่ปรับเปลี่ยนออกมาได้อย่างต้องใจ

“”ท็อดด์ ฟิลลิปส์”” ยังรับหน้าที่ควบคุมหนังภาคต่ออีกเหมือนเคย โดยแบบอย่าง Joker 2 นี้ได้ถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อใช้โปรโมตในงาน CinemaCon 2024 มหกรรมที่เหล่าผู้ประกอบกิจการโรงหนังจะมารวมตัวกันสำหรับการระบุหนทางบริหารรายปี ที่เป็นการันตีแน่ชัดว่าภาคต่อหัวข้อนี้จะยกฐานะเป็นหนังที่เคล้าไปด้วยเสียงดนตรีตลอดทั้งเรื่อง

Joker ภาคแรกแปลงเป็นหนึ่งในหนังที่ประสบผลสำเร็จเยอะที่สุดชั่วกัลปวสานของดีซี

โจ๊กเกอร์ 2

ฟันรายได้ทั้งโลกไปได้กว่าพันล้านเหรียญ แม้ว่าจะเป็นหนังที่ติดเรท R ในทางฉากความร้ายแรงรวมทั้งสะเทือนขวัญ แต่ว่าหนังก็ได้เข้าชิงออสการ์ปีนั้นได้มาถึง 11 รางวัล รวมทั้งชนะกลับไปอยู่บ้านไป 2 ตัว หนึ่งในซึ่งก็คือ วาคีน ฟีนิกซ์ ได้ออสการ์ตัวแรกของเขาไปครอบครอง

Joker 2 โจ๊กเกอร์ 2 หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “”Joker: Folie à Deux”” โจ๊กเกอร์ 2 เป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่กำลังจะเกิดขึ้นภายหลังการบรรลุผลอย่างล้นหลามของ “”Joker”” ภาคแรกในปี 2019 การที่ภาคนี้มีการประกาศสร้างต่อได้รับความพึงพอใจจากผู้ชมทั่วทั้งโลก เพราะเหตุว่าภาคแรกมีรายละเอียดที่เข้มข้นรวมทั้งยั่วยวนใจผู้ชมด้วยความแปลกใหม่และก็การแสดงที่เด่นของ Joaquin Phoenix

ความหมายของ “”Folie à Deux””

ชื่อ “”Folie à Deux”” โจ๊กเกอร์ 2 เป็นภาษาประเทศฝรั่งเศส มีความหมายว่า ความบ้าคลั่งด้วยกันของสองคน ซึ่งมักถูกใช้ในทางจิตวิทยาเพื่อชี้แจงอาการทางใจที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อบุคคลสองคนหรือมากยิ่งกว่านั้นที่มีความเชื่อมโยงสนิทสนมกัน ชื่อนี้แสดงว่าภาคต่อจะตรวจความข้องเกี่ยวระหว่าง Joker กับ Harley Quinn ซึ่งบางทีอาจเป็นการเล่าถึงความบ้าคลั่งที่ทั้งสองมีด้วยกัน

ถึงแม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่แจ่มกระจ่าง แม้กระนั้น “”Joker: Folie à Deux”” คงจะเน้นย้ำไปที่ความข้องเกี่ยวระหว่าง Arthur Fleck แล้วก็ Harley Quinn ซึ่งเป็นตัวละครที่คนจำนวนไม่น้อยรู้จักในฐานะคู่รักรวมทั้งผู้สมคบของ Joker ในหนังสือการ์ตูนและก็ภาพยนตร์ Batman เวอร์ชันอื่นๆ

การเพิ่มส่วนประกอบของละครเพลงในภาคนี้ทำให้แฟนคลับคาดคะเนว่าเรื่องราวอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความแฟนตาซีรวมทั้งเป็นเครื่องหมายเยอะขึ้นเรื่อยๆ บางทีก็อาจจะเป็นการสะท้อนถึงโลกที่ Joker ทำขึ้นในจิตใจของเขารวมทั้ง Harley Quinn ซึ่งแนวนี้ยังไม่เคยมีมาก่อนในหนังซูเปอร์วีรบุรุษที่เกี่ยวกับตัวร้าย

การที่ Lady Gaga มารับบท Harley Quinn เป็นจุดที่ทำให้คนไม่ใช่น้อยรอคอย คุณเป็นดาราหนังและก็นักร้องที่มีความรู้ความเข้าใจสูง และก็การที่ภาพยนตร์มีส่วนประกอบของละครเพลงอาจส่งผลให้ความถนัดการแสดงและก็ร้องของคุณถูกประยุกต์ใช้อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งจะก่อให้หน้าที่ของ Harley Quinn มีความต่างรวมทั้งสะดุดตาออกไปจากเวอร์ชันก่อนๆที่แสดงโดย Margot Robbie

เนื่องด้วย Joker (2019) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างการเกิดด้วยการนำเสนอที่มืดหม่นหมองและก็มีรายละเอียดเอาจริงเอาจัง การผลิตภาคต่อบางทีอาจเป็นความท้าสำหรับคณะทำงานสำหรับในการทำให้เรื่องราวยังคงความสดใหม่แล้วก็น่าดึงดูด เวลาเดียวกันยังจำเป็นต้องรักษามาตรฐานของการแสดงแล้วก็การเล่าเรื่องที่สูงไว้ อย่างไรก็ดี การเพิ่มนักแสดงสำคัญอย่าง Harley Quinn รวมทั้งการนำเสนอในแบบละครเพลงบางทีอาจเป็นก้าวใหม่ที่ชาญชัยสำหรับผู้ผลิต

“”Joker: Folie à Deux””โจ๊กเกอร์ 2  มีระบุฉายในวันที่ 4 ต.ค. 2024 ซึ่งแสดงว่าแฟนคลับยังมีเวลาอีกครู่หนึ่งก่อนจะได้เห็นภาพยนตร์ภาคต่อนี้

สรุป “”Joker: Folie à Deux”” โจ๊กเกอร์ 2 นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีการมุ่งหวังสูงจากแฟนคลับทั่วทั้งโลก การบรรลุผลของภาคแรกได้กำหนดมมาตรฐานไว้สูง รวมทั้งการที่ภาคนี้จะเสนอในต้นแบบที่ผิดแผกออกไป รวมทั้งการเพิ่มผู้แสดง Harley Quinn เข้ามา ทำให้ภาพยนตร์นี้มีประสิทธิภาพสำหรับการเล่าที่ลึกซึ้งและก็สลับซับซ้อนเยอะขึ้น
Joker (2019)

เรื่องราวของ อาคุณร์ เฟล็ค (วาคีน ฟีนิกซ์) ชายที่จะต้องดำรงชีวิตอย่างฝ่าฟันในสังคมที่มีความผิดใจกันในก็อตแธม เขาเป็นตัวเฮฮารับจ้างรายวันรวมทั้งต้องการเป็นศิลปินตลกสแตนอัพในตอนค่ำคืน กลับจำเป็นต้องเจอกับเรื่องขบขันที่เกิดขึ้นอยู่กับตนเอง… เขาจะต้องดำเนินชีวิตวนเวียนอยู่ท่ามกลางความเย็นชาแล้วก็ความขาดความกรุณาปรานี อาคุณร์

ก็เลยเลือกตกลงใจโต้ตอบอย่างหนักในหลายสถานะการณ์กระทั่งแปลงเป็นเรื่องราวที่น่าเรียนรู้ของผู้แสดงที่มีความทรหดอดทนชาญชัยรายนี้ อาคุณร์ อุทิศชีวิตของเขาให้กับการดูแลแม่ผู้เป็นสุดที่รักที่กำลังป่วยไข้ ตลอดชาติเขามองหาความรักจากผู้เป็นบิดาที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน รวมทั้งเผชิญความอบอุ่นนั้นในตัวของ โทมัส เวย์น (เบรตต์ คัลเลน) นักธุรกิจจิตใจดี และก็ เมอร์รีย์ แฟรงคลิน (โรเบิร์ต เดอ นิโร) ผู้นำเสนอในรายการทีวีมีชื่อเสียง แต่ว่าแล้วกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้ข้อเท็จจริงบางสิ่งปรากฏขึ้น ส่งผลให้เกิดความบ้าคลั่ง รวมทั้งการตัดสินใจที่นำไปสู่เรื่องร้ายๆตามมา

ถ้าหากจะมีตัวร้ายในหนังซูเปอร์วีรบุรุษที่เป็นที่น่าจำ หนึ่งในนั้นก็อาจไม่พ้นโจ๊กเกอร์ ตัวตลกชั่วร้ายจากกางทแมนแน่นอนแต่ว่าอาจจะไม่มีผู้ใดคิดหมือนกันว่าวันหนึ่งโจ๊กเกอร์จะมีหนังเป็นของตนเอง กับการดำตรงลงสู่ความบ้าคลั่งของอาคุณร์ เฟล็กซ์ (Joaquin Phoenix) ดาวตลกที่อยู่ในนครก็อทแธมที่กำลังเจอภาวะวิกฤติเศรษฐกิจและก็กำเนิดระส่ำระสายไม่เว้นวัน

จำต้องบอกไว้ก่อนว่าหนังลำพังโจ๊กเกอร์มิได้เป็นหนังแอ็คชั่นหรือหนังที่มองไว้เสพความรื่นเริงใจอะไร กลับเป็นหนังดราม่าตื่นเต้นที่มืดหมอง ร้ายแรงเหี้ยมโหดที่พรีเซนเทชั่นการก้าวไปสู่ความบ้าคลั่งของจิตใจของอาคุณร์ครั้งละนิด หนังมิได้ดูอาคุณร์ว่าเป็นวีรบุรุษ หรือตัวร้าย แม้กระนั้นเสมือนเป็นเหยื่อคนหนึ่งของสังคม ที่ถูกกีดกั้นรวมทั้งไม่มีความเอาใจใส่จากสังคมรวมทั้งผู้มีอิทธิพลที่ควรที่จะเอาใจใส่คนอย่างเขา พวกเราจะมองเห็นอาคุณร์เบาๆเปลี่ยนเป็นโจ๊กเกอร์ครั้งละนิดผ่านความเจ็บทีละลำดับ ซึ่งหนังก็เสนอออกมาได้อย่างเชื้อเชิญอึดอัดและก็น่าสะพรึงกลัวมากมายทีเดียว

“”Joker”” (2019) เป็นภาพยนตร์ที่สะดุดตาในหลายๆด้าน

โจ๊กเกอร์ 2

แล้วก็ได้รับการพูดถึงอย่างมากมายทั้งยังในเรื่องเกี่ยวกับการแสดง การควบคุม แล้วก็แนวความคิดที่ภาพยนตร์พรีเซนเทชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแปลความหมายนักแสดง “Joker” ซึ่งแรกเริ่มเป็นตัวร้ายสำคัญในจักรวาลของ Batman แม้กระนั้นในเวอร์ชันนี้ ภาพยนตร์พาพวกเราเจาะลึกไปถึงจุดเริ่มต้นของผู้แสดงนี้อย่างซับซ้อนแล้วก็มีมิติที่มากขึ้น

เรื่องราว Joker เล่าของ Arthur Fleck (แสดงโดย Joaquin Phoenix) ชายผู้มีปัญหาทางใจเวชที่อุตสาหะจะปฏิบัติงานเป็นศิลปินตลก กลับจำต้องพบเจอกับความโหดร้ายทารุณและก็ความร้ายแรงในสังคม ซึ่งท้ายที่สุดก็ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นผู้ร้ายที่คลุ้มคลั่งรวมทั้งเป็น “Joker” ที่พวกเราได้มองเห็นในตอนหลัง ภาพยนตร์พรีเซ็นท์บรรยากาศของเมือง Gotham ที่เต็มไปด้วยความไม่ชอบใจแล้วก็ความไม่ลงรอยกันด้านสังคม ซึ่งมีส่วนสำหรับในการก่อร่างสร้างตัวตนของ Joker ขึ้นมา

หนึ่งในข้อดีที่สุดของภาพยนตร์นี้เป็นการแสดงของ Joaquin Phoenix เขาสามารถถ่ายทอดความทุกข์ทรมาน ความหดหู่ และก็ความบ้าคลั่งของผู้แสดงได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ผู้ชมรู้สึกทั้งยังเห็นอกเห็นใจแล้วก็กลัวในขณะเดียวกัน ซึ่งการแสดงของเขาได้รับคำยกย่องอย่างล้นหลาม รวมทั้งเอารางวัลจำนวนมาก รวมทั้ง รางวัลออสการ์สาขาผู้แสดงนำฝ่ายชายเยี่ยมที่สุดด้วย

ผู้กำกับ Todd Phillips ได้สร้างบรรยากาศที่มืดหม่นหมองรวมทั้งบีบคั้นออกมาได้อย่างมีพลัง ตัวภาพยนตร์ใช้การถ่ายรูปและก็เสียงเพลงที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความกลุ้มใจรวมทั้งแรงกดดันตลอดระยะเวลา หากว่าภาพยนตร์จะมีความร้ายแรงในบางช่วง แต่ว่าทั้งหมดทั้งปวงนั้นถูกเล่าในลักษณะที่สะท้อนถึงปัญหาที่เกิดจากทางสังคมรวมทั้งความว้าเหว่ของนักแสดง

“”Joker”” ยังตั้งประเด็นการคุยเกี่ยวกับความไม่ทัดเทียมด้านสังคม การไม่มีความเอาใจใส่คนที่มีปัญหาทางสุขภาพทางจิต และก็ผลพวงของความร้ายแรงในสังคม ซึ่งทำให้ภาพยนตร์นี้สื่อความหมายลึกซึ้งมากยิ่งกว่าการเป็นเพียงแค่หนังอาชญากรรมปกติ

สรุป “”Joker”” เป็นภาพยนตร์ที่เข้มข้นและก็กระทบต่อสภาพทางด้านจิตใจ

ผู้ชมอย่างถ่องแท้ การแสดงของ Joaquin Phoenix และก็กรรมวิธีควบคุมของ Todd Phillips ทำให้ภาพยนตร์นี้มีคุณค่าอย่างยิ่งในด้านศิลป์ ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะมีรายละเอียดที่หนักและก็บางช่วงอาจจะเป็นผลให้รู้สึกอึดอัด แม้กระนั้นสำหรับคนที่พอใจภาพยนตร์ที่ท้าความนึกคิดแล้วก็เต็มไปด้วยมิติ “”Joker”” นับว่าเป็นผลงานที่ไม่สมควรพลาด

การกล่าวถึง “”Joker”” ต่อในทางลึก จะแลเห็นได้ชัดแจ้งว่าภาพยนตร์นี้สร้างความรู้สึกนานัปการแก่ผู้ชม ซึ่งสะท้อนมาจากใจความสำคัญที่หนักรวมทั้งสลับซับซ้อนอีกทั้งเรื่องของจิตวิทยา สังคม แล้วก็การบ้านการเมือง

ทางจิตวิทยา ภาพยนตร์พรีเซ็นท์การย่อยสลายทางด้านจิตใจของ Arthur Fleck

โจ๊กเกอร์ 2

อย่างพิถีพิถัน โดยเริ่มจากผู้แสดงที่มานะดำรงชีวิตในสังคม แม้ว่าจะได้รับการไม่ยอมรับแล้วก็ข่มขี่จากคนที่อยู่รอบข้างก็ตาม Arthur เริ่มเป็นผู้ที่อยากได้เพียงแค่ได้รับการยินยอมรับ และก็แสดงออกถึงความเจ็บของตัวเองผ่านเสียงหัวเราะที่ควบคุมมิได้ (โรคที่มีต้นเหตุมากจากความแตกต่างจากปกติทางสมอง) แต่ทว่า เมื่อความทุกข์ใจรวมทั้งแรงกดดันจากสังคมสะสมมากยิ่งขึ้น Arthur เบาๆสูญเสียความมั่นใจในระบบสังคม และก็เลือกทางที่ใช้กำลังสำหรับเพื่อการสนองตอบต่อสิ่งที่เขาพบเจอ

การถดถอยด้านจิตใจนี้ทำให้ผู้ชมตั้งปัญหาเกี่ยวกับความเปราะบางของผู้คนแล้วก็จุดเปลี่ยนที่บางทีอาจก่อให้เกิดความร้ายแรง Arthur Fleck เป็นผู้แทนของคนที่ถูกลืมในสังคม รวมทั้งการที่เขาแปลงเป็น Joker นั้นเปรียบได้กับผลิตผลจากสังคมที่ไม่มีความเอาใจใส่ความเป็นคน

“”Joker”” สะท้อนให้มองเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทางสังคมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความแตกต่างทางชนชั้นในเมือง Gotham ซึ่งสะท้อนถึงโลกที่เรื่องจริงที่คนร่ำรวยแล้วก็คนยากจนอยู่ร่วมกันในสังคมที่เต็มไปด้วยความไม่เสมอภาค การยืนขึ้นขึ้นมาของนักแสดง Joker นั้นมิได้เป็นเพียงแต่การโต้ตอบต่อความทุกข์ใจของตัวเองแค่นั้น แม้กระนั้นยังเป็นผู้แทนของการก่อการอลหม่านในสังคมที่ทนต่อความไม่ยุติธรรมมานาน

การก่อการความวุ่นวายของกลุ่มของผู้คนในเมือง Gotham ที่ใช้ Joker เป็นเครื่องหมาย ชี้ให้เห็นถึงความเคร่งเครียดในสังคมที่แตกหัก รวมทั้งการต้านทานชนชั้นนำ การบอกกล่าวเรื่องราวผ่านมุมมองของคนที่ถูกบีบคั้นในสังคมทำให้ภาพยนตร์หัวข้อนี้มีพลังเป็นอย่างมาก แล้วก็ทำให้ผู้ชมคนไม่ใช่น้อยถามต่อส่วนประกอบด้านสังคมในชีวิตจริงของตัวเอง” coltsfootballofficialproshop

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *